การได้ไปเรียนต่อต่างประเทศคงเป็นความฝันสำหรับหลาย ๆ คน ในกรณีที่บ้านฐานะดี มีทุนทรัพย์ ก็สามารถไปได้อย่างไม่ต้องกังวลสิ่งใด ในส่วนที่ฐานะทางบ้านไม่ค่อยพร้อมแต่ก็ยังอยากแสวงหาโอกาสอันดีให้กับชีวิตโดยการไปเรียนต่อต่างประเทศนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหนทาง เพราะมีทุนต่าง ๆ ที่คอยสนับสนุนให้กับนักเรียนนักศึกษาผู้ใฝ่ดีทั้งหลาย วันนี้เราจึงมีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีขอทุนเรียนต่อต่างประเทศมาฝาก
ก่อนอื่นต้องถามตัวเองก่อนว่ามีเป้าหมายอะไร อยากเรียนทางด้านไหน ประเทศอะไร เมื่อกำหนดได้แล้วก็เริ่มค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีให้บริการมากมายเกี่ยวกับข่าวสารข้อมูลทุนการศึกษาของประเทศต่าง ๆ เช่น www.scholarship.in.th , www.findaphd.com เป็นต้น แล้วก็เข้าไปค้นหาในสาขาที่เราต้องการเรียน รวมทั้งประเทศที่เราเล็งไว้ว่ามีหรือไม่ เมื่อเจอมหาวิทยาลัยที่ตรงกับเป้าหมายของเราแล้วก็ลองเข้าไปที่เว็บไซต์หลักของมหาวิทยาลัยนั้น ๆ เพื่อศึกษารายละเอียดให้มากขึ้นว่าทุนนั้นมีที่มาอย่างไร มีรายละเอียดการให้ทุนแบบไหนให้บางส่วนหรือให้เต็มจำนวน ให้ค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันด้วยหรือไม่ มีทุนในระดับใดให้บ้าง มีข้อผูกมัดใดบ้างหลังเรียนจบ เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ต้องศึกษาให้ละเอียด
เมื่อทราบรายละเอียดแล้วจากนั้นให้เตรียมเอกสารและสิ่งที่ต้องใช้ในการสมัครให้พร้อม ส่วนมากจะประกอบด้วยเอกสารหลัก ๆ ดังนี้
– ผลการสอบ TOEFL ให้ดูรายละเอียดว่าทางมหาวิทยาลัยกำหนดคะแนนไว้ที่เท่าไร การสอบนั้นค่อนข้างยากดังนั้นต้องอ่านหนังสือเตรียมตัวไปให้พร้อม เมื่อคะแนนไม่ถึงจะได้สอบใหม่ได้ทัน โดยการสอบมีค่าใช้จ่ายประมาณ 185 เหรียญหรือราว 5,500 บาท ใช้เวลารอผลการสอบประมาณ 10 วัน
– ผลการสอบ IELTS เช่นกันกับ TOEFL เราต้องเตรียมตัวไปให้พร้อมมากเพราะ IELTS ยากกว่า TOEFL จัดสอบน้อยกว่า ราคาแพงกว่า อยู่ที่ราว 7,000 บาท ใช้เวลารอผลการสอบประมาณ 20 วัน
– เอกสารแสดงผลการเรียน เช่น ทรานสคริป ใบรับรอง ที่ออกให้โดยโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย
– จดหมายรับรองจากผู้อ้างอิง ในกรณีที่ยังเป็นนักเรียนนักศึกษาส่วนมากก็ต้องเป็นครูอาจารย์ แต่หากเป็นบุคคลที่ทำงานแล้วก็อาจใช้บุคคลที่ทำงานกับเราได้
– รูปถ่าย แต่ละที่ก็ใช้ขนาดและสีไม่เหมือนกัน ให้อ่านรายละเอียดแล้วมาจัดเตรียมให้ตรงกับที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด
– เค้าโครงวิจัยหรือ Research proposal เป็นการเขียนเค้าโครงวิจัยเบื้องต้นเกี่ยวกับสาขาที่เราจะไปเรียนเพื่อทดสอบว่าเรามีความรู้ด้านนี้เพียงใด
เมื่อเตรียมหลักฐานพร้อมแล้วก็ถึงเวลาทำการสมัครตามวิธีที่มหาวิทยาลัยกำหนด บางแห่งให้ส่งไปทางโปรแกรมสำเร็จรูปออนไลน์ของทางสถาบัน บางแห่งให้ส่งเป็นจดหมาย บางแห่งอาจให้ส่งทางอีเมลล์ ให้ตรวจสอบให้ดีเพราะหากส่งวิธีที่ผิดไปทางสถาบันอาจไม่พิจารณาเลย เมื่อส่งไปแล้วจากนั้นก็รอผล ใช้เวลานานเพียงใดก็แล้วแต่ทางสถาบันได้แจ้งไว้