มีอะไรเป็นสาเหตุให้เด็กไทยอ่านหนังสือลดลง

อะไรเป็นสาเหตุให้เด็กไทยอ่านหนังสือลดลง                หลายๆคนคงได้ยินเรื่องที่น่าตกใจ ว่าทำไมเด็กไทยนั้นอ่านหนังสือกันน้อยลง เมื่อมีการสำรวจค้นพบว่า ค่าเฉลี่ยของเด็กในประเทศไทยนั้น มีค่าเฉลี่ยที่อ่านหนังสือน้อยลงเป็นอย่างมาก  จริงๆแล้วการศึกษาไทยนั้นก็ได้มีการสนับสนุนให้เด็กไทยได้อ่านหนังสือกันมากขึ้น ทั้งสื่อโฆษณามากมายที่เกี่ยวกับหนังสือ หรือห้องสมุดต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย  แม้กระทั่งห้องสมุดออนไลน์ที่สามารถทำให้เด็กๆหรือแม้กระทั้งทุกเพศ ทุกวัย สามรถเข้าถึงและเลือกที่จะอ่านได้ตลอดเวลาที่ไม่จำกัด  หรือจริงๆแล้วอาจจะเป็นเพราะเทคโนโลยีต่างๆที่เข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเด็กๆมากขึ้น  ในปัจจุบันคาดการณ์กันได้ว่า เทคโนโลยีต่างๆ สามารถเข้าถึงได้ง่ายการอ่านหนังสือของเด็กไทยนั้นจึงถูกแทนที่ด้วย โทรศัพท์  โทรทัศน์  คอมพิวเตอร์  อาจจะเป็นสาเหตุให้เด็กไทยเลือกที่จะสนใจสิ่งเหล่านี้มากกว่าหนังสือ หรือจะเป็นเพราะค่านิยมแบบผิดๆที่มีมาในตอนหลังว่า ที่ปลูกฝังให้เด็กๆรู้สึกว่า การอ่านหนังสือนั้นค่อนข้างที่จะล้าสมัย แท็บเล็ต เป็นสิ่งที่ดีกว่า เห็นได้จากในหลายๆ โรงเรียนที่มีการแจกแท็บเล็ตเพื่อใช้ในการศึกษา หรือในมหาวิทยาลัย บางมหาวิทยาลัย ที่มีการแจกไอแพดเพื่อใช้ในการศึกษาเช่นกัน

การอ่านหนังสือของเด็กไทยที่น้อยลงนั้นอาจจะโทษเพียงการเปลี่ยนแปลงและค่านิยมของสังคมอย่างเดียวคงไม่ได้ บางทีเด็กก็อาจที่จะมีพฤติกรรมที่เลียนแบบเป็นอันดับแรก นั้นคือ พฤติกรรมของผู้ใหญ่ในครอบครัว เนื่องจากในสภาวะของสังคมตอนนี้นั้นมีการเกิดช่องว่างระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่เป็นอย่างมาก เนื่องจากสิ่งต่างๆที่เข้ามาจูงใจเด็กนั้นมีมากกว่า และใกล้ตัวกว่า สิ่งเหล่านี้อาจเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เด็กไทยนั้นมีการอ่านหนังสือที่ลดน้อยลงไปมาก ไม่ใช่แค่เพียงเด็กไทยเท่านั้น คนไทยเองก็อ่านหนังสือน้อยลงเช่นกัน สถิติใหม่นั้นเป็นการเก็บรวบรวมจากคนไทยทั้งประเทศพบว่า คนไทยได้มีการอ่านหนังสือเฉลี่ยปีละ 8 บรรทัด ซึ่งเมื่อทำการเปรียบเทียบกับประเทศในกลุ่มอาเซียน มาเลเซีย เวียดนาม แล้วนั้น ยังมีการอ่านหนังสือที่มากกว่าเฉลี่ย 5 เล่มต่อปีเลยทีเดียว

ในเมื่อค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือของประเทศไทยเราเป็นที่หน้าตกใจขนาดนี้ คงโทษแต่เด็กไทยอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะผู้ใหญ่เองก็ยังไม่ค่อยที่จะอ่านหนังสือกันเลยถึงกับต้องมีการรณรงค์ให้คนไทยนั้นอ่านหนังสือกันเกิน 8 บรรทัดขึ้นไปจนกลายเป็นกระแสโซเชียลกันอยู่พักใหญ่เลยทีเดียว แต่ในความน่ากลัวนั้นก็ยังคงมีสิ่งที่ดีอยู่ว่าค่าเฉลี่ยของเด็กไทยนั้น มีความรู้และการเรียนรู้ที่สูงขึ้น พอได้เรียนแล้วการแข่งขันก็สูงขึ้นยิ่งสมัยก่อนใช้การสอบแบบเอ็นทรานซ์ ใครที่ได้คะแนนดีๆก็จะสามารถที่จะเข้ามหาวิทยาลัยดีๆได้ ทุกอย่างหรือเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายสำหรับเด็ก  หนังสือเลยหนีห่างออกไป เมื่อก่อนคอมพิวเตอร์นั้นเป็นเรื่องที่ไกลตัวเป็นอย่างมาก แต่ในสมัยปัจจุบันนั้น เด็กอนุบาลบางคนยังมีโทรศัพท์มือถือใช้กันเลยทีเดียว แต่ไม่ใช่ว่าการใช้เทคดนดลยีของเด็กไทยในสมัยนี้นั้นจะดีเสมอไป แต่ตราบใดที่ผู้ใหญ่ยังคงปิดกั้นการเรียนรู้ของตัวเองนั้น ผู้ใหญ่เองก็คงจะไล่ตามเด็กในสมัยนี้ไม่ทัน  และการที่เปิดใจยอมรับและศึกษาเทคโนโลยีใหม่ๆเหล่านี้ อาจจะมีวิธีการที่จะดูแลเด็กๆได้อย่างทั่วถึงในการใช้เทคโนโลยีรวมถึงการแนะนำ ให้เด็กๆเหล่านี้สามารถใช้เทคโนโลยีต่างๆได้อย่างพอเหมาะ และเหมาะสมกับวัยของพวกเขาได้อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตามการอ่านหนังสือนั้นก็ยังถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ การอ่านหนังสือถือว่าเป็นการฝึกสมาธิที่ดี  ที่ได้ทั้งองค์ความรู้ ความคิด และข้อมูลต่างๆในเวลาเดียวกัน แถมยังเป็นการช่วยพัฒนาตนเองได้อีกด้วย  สนับสนุนให้คนไทยอ่านหนังสือกันมากขึ้นแล้วคุณอาจจะค้นพบความรู้ใหม่ๆหรือแม้กระทั่งค้นพบตัวเองจากหนังสือที่คุณเลือกเปิดอ่านอยู่ก็เป็นได้